วันอาทิตย์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

นิพพานเป็นสภาพที่ดับแล้วจะมีความสุขอย่างไรจะเอาดีกับนิพพานทางไหน?

ปุจฉา: นิพพานเป็นสภาพที่ดับแล้วจะมีความสุขอย่างไรจะเอาดีกับนิพพานทางไหน?

วิสัจฉนา: เอาดีทางจิตที่หลุดพ้นจากการถูกบงการของกิเลส อันเป็นเหตุให้เวียนเกิดเวียนตายจนหาที่สิ้นสุดไม่ได้ นักปราชญ์ผู้มีปัญญาพิจารณาเห็นว่าความเกิดบ่อยๆเป็นทุกข์เรื่อยไป จึงเพียรพยายามตัดกระแสแห่งกิเลสตัณหา อันเป็นเครื่องนำไปสู่ภพเสียได้ท่านเอาดีของท่านในทางนี้

หากเราจะเปรียบเทียบกันแล้ว ความสุขขั้นโลกิยะในระดับต่างๆนั้นเหมือนความสุขจากการเกาแผลคัน พอเกิดคันขึ้นมาก็ต้องเกาแผล ความรู้สึกว่าตนเป็นสุขก็เกิดขึ้นกามสุขนั้นเป็นความสุขที่เกิดขึ้นจากการตอบสนองความปรารถนาของตนได้หากตอบสนองความต้องการไม่ได้ก็กลายเป็นความทุกข์

ฝ่ายความสุขที่เกิดจากนิพพานนั้นเหมือนความสุขของคนที่มีร่างกายปกติไม่มีแผลคันให้ต้องเกาคือ จะเกิดความสุขขึ้นเป็นปกติ เพราะร่างกายปกติไม่จำเป็นต้องไปสร้างเหตุแห่งความสุขอีกต่อไป

การกล่าวว่านิพพานเป็นความสุขนั้น เหมือนการกล่าวว่าอาหารอร่อยเมื่อคนเหล่านั้นได้ปริโภคอาหารนั้นฉันใด การบอกว่านิพพานเป็นความสุขท่านที่บอกต้องเป็นผู้ได้บรรลุนิพพานแล้วฉันนั้น หากบุคคลไม่ยอมเชื่อวาทะของพระอริยบุคคลเช่นนั้นก็ไม่ทราบว่าจะเชื่อใครแล้วในโลกนี้ และความสุขที่ท่านเรียกว่า นิพพานสุข นั้นบุคคลอาจสัมผัสได้ในส่วนหนึ่งดังที่ได้กล่าวมาแล้วในข้อก่อน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น