วันศุกร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2551

ศาสนาห้ามฆ่าสัตว์ทำไมจึงอนุญาตให้กินเนื้อสัตว์

ปุจฉา:
พระพุทธศาสนาห้ามฆ่าสัตว์ทำไมจึงอนุญาตให้กินเนื้อสัตว์?


วิสัชนา:
นั่นน่ะซีน่าคิดเหมือนกันนะข้อที่น่าคิดนี้แหละจึงควรคิดไปตามลำดับคืออย่างไร? คือ "การตัดสินว่าบาปหรือบุญในพุทธศาสนานั้นท่านกำหนดด้วยเจตนาเป็นสำคัญ" "เจตนากินกับเจตนาฆ่าคนละเจตนากัน" เรื่องนี้เห็นจะต้องพูดกันมากหน่อยจึงขอยึดหลักไว้ก่อนเรื่องปรากฏในพาโลวาทชาดก ทุกนิบาต ความย่อว่าพระโพธิสัตว์บวชเป็นดาบส คฤหบดีคนหนึ่งต้องการจะแกล้งท่านจึงนิมนต์มาฉันที่บ้านด้วยอาหารที่เป็นปลาและเนื้อเมื่อดาบสฉันเสร็จแล้วคฤหบดีกล่าวว่า
หนตวา ฆตวา วธิตวาจ เทติ ทาน อสญญโต
อีทิส ภตต ภุญชมาโน สปาปมุปลิมปติ
บุคคลผู้ไม่สำรวม ประหาร ทรมาน ฆ่าสัตว์ให้ตายแล้วย่อมให้ทาน ผู้บริโภคภัตรเช่นนี้ต้องติดบาปพระดาบสโพธิสัตว์ตอบว่า
ปุตตทารมปิ เจ หนตวา เทติทาน อสญญโต
ภุญชมาโนปิ สปุปญโณ นปาปมุปลิมปติ
บุคคลผู้ไม่สำรวมแม้จักฆ่าบุตรและภรรยาให้ทานผู้มีปัญญาแม้บริโภคย่อมไม่แปดเปื้อนด้วยบาปทำไมจึงพูดว่า เจตนากิน กับเจตนาฆ่าเป็นคนละเจตนากันเล่า? เพราะความจริงเป็นเช่นนั้นคนกินนั้นไม่มีเจตนาเกี่ยวข้องกับการฆ่าแต่ประการใด ถ้าคนกินเนื้อสัตว์เพียงอย่างเดียวเป็นบาป ก็แสดงว่าพระพุทธเจ้าก็ดีพระอรหันต์ก็ดี ทรงเสวยและฉันอาหาร ที่ทายกบริจาคถวายก็ต้องเป็นบาปด้วย เมื่อเป็นบาปด้วยก็เป็นการปฏิเสธว่าพระพุทธเจ้ายังไม่ละบุญและบาปได้แล้วตามที่ท่านกล่าวว่า "ปุญญปาปปหีโน คือมีบุญและบาปอันละได้แล้ว"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น