วันพฤหัสบดีที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2552

พึ่งตนเองดีกว่าหรือพึ่งพระเจ้าดีกว่า

ปุจฉา: พระพุทธศาสนาสอนให้พึ่งตนเองช่วยตนเองสู้พึ่งพระเจ้าไม่ได้พึ่งตนเองดีกว่าหรือพึ่งพระเจ้าดีกว่า?

วิปัสนา: การเปรียบเทียบว่าอะไรดีกว่าอะไรนั้น ย่อมขึ้นกับความพอใจ ศรัทธาของคนๆนั้นเป็นสำคัญเหมือนเราถาม "ระหว่างปลาร้า กับ น้ำมูดูอะไรอร่อยกว่ากัน" ถามคนอีสานก็ต้องตอบว่า น้ำมูดูอร่อยสู้ปลาร้าไม่ได้คนทางสงขลา ปัตตานี ก็ต้องตอบว่า น้ำมูดูอร่อยกว่า พอมาถามคนภาคกลางเข้าเขาอาจจะตอบว่า "ผมว่าสองอย่างนั้น สู้น้ำพริกปลาทูไม่ได้นะ"

เรื่องการพึ่งสิ่งที่ตนเคารพเป็นสรณะก็เหมือนกัน ใครมีความศรัทธามีความฝังใจในศาสนาธรรมของศาสนาใด ก็ชอบที่จะยึดมั่นในศาสนาของตนและที่ไม่ควรลืม คือพระพุทธเจ้านั้นทรงอยู่ในฐานะผู้บอกทางแห่งความสุขอันควรเดินไป กับทางแห่งความทุกข์อันควรละเว้นให้เท่านั้น ส่วนการปฏิบัติเพื่อให้เกิดผลที่ตนจำนงหวังเป็นเรื่องที่แต่ละคนจะต้องลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง ไม่มีการดลบันดาลในพระศาสนานี้จะรักษาคุ้ม
ครองเป็นที่พึ่งของคนได้จะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่ว่า "พระธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรมเหมือนร่มใหญ่ป้องกันคนผู้กั้นร่มไม่ให้เปียกฝนในเวลาฝนตกฉะนั้น"

แม้ว่าจะมีร่มอยู่ในมือหากไม่กั้นร่มไว้เหนือศีรษะเวลาเปียกฝนจะไปตำหนิร่มไม่ได้ฉันใดพระธรรมในพระศาสนานี้จะรักษาได้เฉพาะผู้ประพฤติธรรมฉันนั้น แม้พระเจ้าเองก็เถอะอย่างที่เคยกล่าวมาในข้อก่อนว่า
"จงช่วยตัวของเจ้าก่อนแล้ว พระเจ้าจึงจะช่วยเจ้า" ถ้าพระเจ้าสามารถช่วยแม้คนที่ไม่พร้อมจะช่วยตนเองได้แล้ว ลูกของพระเจ้าสองพระองค์คงไม่ทำสงครามล้างผลาญกันอยู่ในเลบานอนในปัจจุบันนี้หรอก

ข้อนี้หาได้เป็นความบกพร่องของพระเจ้าไม่แต่เพราะลูกหลานเหล่านั้นไม่ยอมช่วยตนเองก่อนเลยแล้วจะโทษใครกันเล่า ?

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น